ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พ่อเลี้ยงอี๊ด นัดเจรจา ดารา นักแสดง ชื่อดัง เต๋า สมชาย เข็มกลัด กับคู่กรณี โดยทั้ง เต๋า สมชาย และคู่กรณีต่างก็ยินยอมที่จะจับมือกันและถอนแจ้งความ ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ให้ทั้งสองฝ่ายลงบันทึกยอมความ แต่ในรูปของคดีก็ต้องส่งสำนวนให้อัยการว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องอย่างไร
วันนี้ (6 พ.ย.) นายอุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ หรือพ่อเลี้ยงอี๊ด นายกสมาคมกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียก เต๋า สมชาย เข็มกลัด พร้อมด้วยนายธงชัย และนางสมถวิล อินทรชูศรี พ่อ,แม่บุญธรรมของเต๋า และทนายความเข้าพบเพื่อหาข้อยุติดเรื่องวิวาทที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้เรียกนาย เฉลิมชัย คู่กรณีโดยมีนางฐิติพร รัศมี มารดาและนายบุวิทย์ แสงสุวรรณ บิดาและทนายมาร่วมตกลงเจรจากันที่บริษัทพนาสิทธิ์ ถนนเชียงใหม่-หางดง ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยมีพ่อเลี้ยงอี๊ดเป็นคนกลางในการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ
โดยผลการเจรจาปรากฏว่าทั้ง 2 ฝ่ายยินยอมที่จะให้อภัยกันและกัน โดยนายอุดรพันธ์ ก็ได้ให้เต๋า สมชาย จับมือกับนายเฉลิมชัย โดยมีสักขีพยานเป็นผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย และรับปากว่าจะยุติเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงเท่านี้ และทั้งคู่จะเดินทางไปถอนแจ้งความกันที่สถานีตำรวจภูะรจังหวัดเชียงใหม่ในเย็นนี้เช่นกัน
ด้านเต๋า สมชายกล่าวว่า ทั้งตนและนายเฉลิมชัยก็มีผู้ใหญ่ที่นับถือคนเดียวกัน เมื่อผู้ใหญ่ของเชียงใหม่ขอร้องก็พร้อมที่จะยอมความเพราะว่า ตนเองมีธุรกิจอยู่ในเชียงใหม่ ถือว่าเป็นคนเชียงใหม่เหมือนกัน จึงไม่อยากที่จะมีปัญหา และพร้อมที่จะไปถอนแจ้งความ
ขณะที่นายเฉลิมชัย กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า เมื่อเมื่อมีผู้ใหญ่มาขอร้องก็ยินดีที่จะยอมความและยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมจะเดินทางไปถอนแจ้งความในเย็นวันนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ดีนายอุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ พ่อเลี้ยงอี๊ด นายกสมาคมกีฬาจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า หลังจากมีข่าวนี้ออกมาก็รู้สึกไม่สบายใจ ทั้ง 2 ฝ่ายก็รู้จักกันดี จึงอยากให้เรื่องยุติเลยต้องเรียกคู่กรณีและผู้ปกครองมาตกลงเจรจากัน โดยเฉพาะทราบว่าในอนาคตเต๋าจะสร้างหอพักให้กับพ่อแม่บุญธรรมที่ เชียงใหม่ มาลงทุนทำธุรกิจในเชียงใหม่ก็เหมือนเป็นคนเชียงใหม่ จึงไม่อยากให้มีเรื่องบาดหมางกัน เพราะจะอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีความสุข ส่วนเรื่องคดีความหากไม่สามารถถอนแจ้งความได้ ตนก็จะพยายามประสานกับผู้ใหญ่ให้ช่วยเหลือ ผ่อนหนักให้เป็นเบา เพื่อจะได้ยุติเรื่องที่เกิดขึ้น
ในส่วนของพันตำรวจตรีวิสูตร วงศ์ใหญ่ พนักงานสอบสวนก็ได้ให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทำบันทึกยอมความซึ่งกันและกัน เพื่อจะได้แนบไปกับสำนวนการสอบสวน เพราะคดีนี้ถือว่าเป้นคดีอาญาไม่สามารถยอมความกันได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานอัยการที่จะรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาลหรือไม่ต่อไป
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|