หลัง ก.ไอซีที ได้รับการประสานจาก ก.วัฒนธรรม นำข้อมูลส่งฟ้องศาลอาญาเพื่อให้มีคำสั่งระงับเผยแพร่ ศาลพิจารณาเห็นว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จึงมีคำสั่งให้ปิด 59 เว็บเพจ...
ตามที่ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ให้มีการติดตามและตรวจสอบการเผยแพร่การ์ตูนลามก เรื่อง ''นารุโตะ ภาคพิสดาร'' ที่มีผู้ไม่หวังดีได้นำมาเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆจำนวนมาก เนื่องจากมีภาพ เสียง และเนื้อหาลามกอนาจาร และก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กและเยาวชนนั้น
วันนี้ (26 เม.ย.) น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ล่าสุด ได้รับแจ้งจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยนางระวิวรรณ พงษ์พานิช นิติกรปฏิบัติการพนักงานเจ้าหน้าที่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ว่า กระทรวงไอซีทีได้ ส่งเรื่องการเผยแพร่การ์ตูนลามกเรื่องนารุโตะ ฟ้องต่อศาลอาญาเพื่อให้มีการไต่สวนคำร้องขอให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยได้มีการส่งเอกสาร วัตถุพยาน และแผ่นซีดี เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้อง
ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า ศาลได้พิจารณาหลักฐานแล้ว เห็นว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏอยู่ในเว็บเพจ แผ่นวิดีทัศน์มีลักษณะเป็นการนำข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีข้อมูลในลักษณะลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ จึงถือว่าการนำเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(4) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลจึงมีคำสั่งให้ระงับการเผยแพร่และทำให้แพร่หลายภาพการ์ตูนลามกดัง กล่าว จำนวน 59 เว็บเพจด้วย
น.ส.ลัดดา กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นตัวอย่างในการลงโทษของการกระทำความผิด และขอเตือนไปยังผู้ที่ไม่หวังดี และนำเอาภาพและข้อความที่ลามกอนาจาร มาเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ถือเป็นภัยต่อสังคม ทางศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ได้ประสานกับกระทรวงไอซีที และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเดินหน้าปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด และจริงจัง พร้อมทั้งได้มีการขยายเครือข่ายในการตรวจสอบเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายต่อเด็ก และเยาวชนมากขึ้น เพื่อแจ้งเบาะแสของผู้ทำผิด และในอนาคตอาจจะมีการตั้งรางวัลสำหรับผู้แจ้งเบาะแสของผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ต่อไป
ข่าวจาก ไทยรัฐ